“ช่อ” ชี้ APEC 2022 โอกาสทอง ไทยสร้างเครดิตเวทีโลก ถ้าเกิดผู้นำมีวิสัยทัศน์

“ช่อ” แกนนำคณะก้าวหน้า วิเคราะห์ไทย กับ APEC 2022 ชี้ เป็นโอกาสทอง ไทยสร้างเครดิตในเวทีโลก ถ้าเกิดผู้นำมีวิสัยทัศน์ มองดูสูญเสียโอกาสใช้ APECเป็นเครื่องกอบกู้ภาพลักษณ์ประเทศ ชี้ แม้แทงข้างรัสเซียสุดตัว แต่สุดท้ายไม่มีเงา “ปูติน” ร่วม

วันที่ 15 เดือนพฤศจิกายน 65 น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ร่วมวงเสวนา “เวที APECและก็การต่างประเทศ ไทยจะไปทางไหนท่ามกลางความไม่ตรงกัน?” ซึ่งจัดขึ้นที่อาคารกิจกรรมนิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อวิเคราะห์ถึงบทบาทของประเทศไทยในเวทีโลก ต่อการได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC)

 APEC

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า APEC ไม่ใช่เพียงแค่การประชุม

เรื่องเศรษฐกิจเพียงแค่อย่างเดียว เพราะเหตุว่าทุกเวทีการประชุมสูงสุดล้วนแต่เป็นสถานที่แสดงอำนาจและก็บทบาทของประเทศต่างๆในการเมืองระหว่างประเทศทั้งนั้น ซึ่งไทยก็จะต้องร่วมเล่นการเมืองนี้อย่างฉลาดหลักแหลม และก็ควรใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์สูงสุดในการกอบกู้ทศวรรษแห่งความสูญเปล่าในการต่างประเทศของไทย ที่ผ่านมามีบทบาทเพียงแค่การไล่อธิบายกับนานาชาติว่าเหตุใดก็เลยต้องรัฐประหาร การตอบคำถามว่าเมื่อใดจะมีเลือกตั้งและก็การแก้ตัวให้การละเมิดสิทธิมนุษยชนเท่านั้น

แต่ประเทศไทยกลับใช้โอกาสนี้เล่นการเมืองอย่างไม่ฉลาดหลักแหลม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างยิ่งต่อการแสดงออกในกรณีรัสเซีย-ยูเครน ในทางที่เข้าข้างรัสเซียมากกว่าประเทศมหาอำนาจตะวันตก หรือการแสดงออกอย่างสมดุลมาโดยตลอด ถึงขั้นมีการส่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไปเยี่ยมรัสเซียเมื่อเดือนเดือนกันยายน ซึ่งวันนี้ชัดเจนแล้วว่าทางสหรัฐอเมริกา ไบเดนไม่ยอมมาร่วมด้วยตนเอง ขณะที่ทางฝั่งรัสเซีย ปูตินก็ไม่ได้มาด้วยตัวเองด้วยเหมือนกัน ทำให้เห็นว่านโยบายเลือกข้างเช่นนี้ไม่ได้ทำให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากมหาอำนาจ

น.ส.พรรณิการ์ ยังระบุต่อไป ว่าการมาหรือไม่มาของผู้นำระดับสูงสุดเป็นตัวบ่งชี้ถึงความน่าวางใจของผู้เชิญ ว่าสามารถสร้างภาพลักษณ์ในเวทีสุดยอด มีบทบาทในการพูดจา สร้างเวทีความร่วมมือได้หรือไม่ ซึ่งนี่คือสิ่งที่หายไปจากประเทศไทย จะเห็นได้ว่าผู้นำสูงสุดหลายคนล้วนเข้าร่วมการประชุม G20 ที่บาหลี อินโดนีเซีย เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แต่กลับตอบรับมาร่วมประชุมเอเปกกันน้อยมาก ทำให้การเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปกของไทยล้มเหลวในการเป็นเครื่องมือกอบกู้ภาพลักษณ์ กลายเป็นเพียงแค่การประชุมตามวาระปกติ และก็กรอบความร่วมมือที่มีอยู่แล้ว เช่น เรื่องการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิก เท่านั้น

 

ช่อ ชี้โอกาสทองไทยสร้างเครดิตเวทีโลก

น.ส.พรรณิการ์ ยังกล่าวถัดไปว่า การแก้ปัญหาการเมืองจากภายในเท่านั้น

ที่จะช่วยคลี่คลายภาพลักษณ์ในการต่างประเทศของไทยได้ เพราะเหตุว่าความน่าวางใจของประเทศไทยในวันนี้อยู่ในจุดที่ตกต่ำอย่างมาก แม้จะพยายามขายภาพลักษณ์ที่ดี แต่ความเป็นจริงคือประเทศไทยทำตรงข้ามในทุกๆเรื่องที่เป็นมาตรฐานสากล รวมถึงในเรื่องที่เวทีโลกจับตาอยู่ ทั้งในเรื่องของประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และก็การเลือกข้างอย่างไม่สมดุลในเวทีระหว่างประเทศ

“ในเวทีรอบนี้มีการบอกเรื่องของการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นคอนเซปต์ที่ดี แต่รัฐบาลซึ่งอ้างคำนี้ก็คือรัฐบาลเดียวกันกับที่คว่ำกฎหมายสุราก้าวหน้า ส่งเสริมให้เกิดการผูกขาดทางเศรษฐกิจต่อไป กล่าวถึงว่า จะเกื้อหนุนเกษตรกรแต่ยังมีเกษตรกรถูกรัฐจับกุม เพราะเหตุว่ารุกป่าตลอดเวลา ทั้งที่รัฐไปประกาศที่ อุทยานทับที่ชาวบ้าน กล่าวถึงว่ายึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชนสากล แต่ก็ยังจับคนเข้าคุกในคดี 112 ตลอดเวลา และก็ที่น่าประหลาดใจที่สุด คือ การกล้าเอาปลากุเลาตากใบขึ้นโต๊ะ กาลาร์ดินเนอร์ ขณะที่ชาวตากใบแทบร้อยคนที่เสียชีวิตจากการกระทำเกินกว่าเหตุของทหารในปี 2547 ยังไม่เคยได้รับความยุติธรรม และก็คนจังหวัดชายแดนใต้ยังคงถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงมาจนถึงวันนี้” พรรณิการ์ กล่าว

น.ส.พรรณิการ์ ระบุเหตุว่า การได้เป็นเจ้าภาพเอเปกของไทยปีนี้ควรจะเป็นปีที่พิเศษมาก หลังจากที่เวทีเอเปกไม่ได้มีการประชุมแบบเจอตัวกันมานานหลายปี บวกกับมีทั้งสถานการณ์โลก เช่น ความผันแปรของสภาพภูมิอากาศ วิกฤติพลังงาน การฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด อื่นๆอีกมากมาย ทำให้มีโอกาสสูงที่การประชุมคราวนี้จะสามารถถูกทำให้เป็นการประชุมที่มีความหมายมากกว่าการประชุมตามวาระทั่วไป แต่น่าเสียดายที่เมื่อผู้นำของประเทศขาดความน่าวางใจ ก็เลยทำให้ไม่สามารถแสดงบทบาทนำในลักษณะนี้ได้

APEC Thai

 

10 เรื่องต้องทราบไว้ “ไทยผู้จัดงานประชุมเอเปค APEC 2022 Thailand”

เริ่มแล้วสำหรับการการประชุมAPEC 2022 Thailand ซึ่งปีนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพและก็พร้อมเปิดประตูต้อนรับผู้นำ ตัวแทนผู้นำ อย่างเป็นทางการ

  1. การประชุมเอเปค มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 (APEC2022)
  2. มีความสำคัญอย่างไร : เอเปค หรือ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation:APEC) คือ เวทีความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จัดตั้งขึ้นในปี 2532 มีเป้าหมายหลักคือการส่งเสริมการเปิดเสรีการค้าการลงทุน รวมถึงความร่วมมือในด้านมิติสังคมและก็การพัฒนาด้านอื่นๆเช่น

ความร่วมมือด้านการเกษตร การส่งเสริมบทบาทสตรีในเศรษฐกิจ การลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ และก็การพัฒนาด้านสาธารณสุข เพื่อนำไปสู่การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุม ยั่งยืน และก็ความร่ำรวยของประชาชนในภูมิภาค

  1. มีตั้งแต่วันที่ 14-19 พ.ย.2565 โดยจัดที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และก็ 5.ในช่วงที่มีการประชุม รัฐบาลไทยประกาศวันหยุดราชการ 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 16-18 เดือนพฤศจิกายน2565
  2. เอเปคมีสมาชิกจำนวน 21 เขตเศรษฐกิจ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น แคนาดา เกาหลีใต้ และก็รัสเซีย และก็ไทยเป็นหนึ่งใน 12 เขตเศรษฐกิจผู้ร่วมจัดตั้งขึ้น ซึ่งเอเปคมีประชากรรวมกว่า 2,900 ล้านคน หรือประมาณ 1 ใน 3 ของโลก มีผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) รวมกันกว่า 53 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ1,700 ล้านล้านบาท
  3. การประชุมเอเปคที่จัดขึ้นที่ไทย นับเป็นครั้งแรกในประชุม “ต่อหน้า” ในรอบหลายปี เพราะเหตุว่าตลอด 4 ปีที่ผ่านมา การประชุมเอเปคมักจะเกิดอุปสรรคขึ้นเป็นประจำเริ่มตั้งแต่ สหรัฐอเมริกาเริ่มประกาศสงคราม การค้ากับ 15 ประเทศที่สหรัฐอเมริกาขาดดุลด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งสงคราม การค้าในคราวนี้ที่เริ่มในปี 2018

ทำให้การประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคที่น่าจะต้องปรึกษากันเพื่อสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์การประชุมด้วยกันและก็ออกแถลงการณ์ด้วยกันได้ในปี 2018 ที่ประเทศปาปัวนิวกีนีเป็นเจ้าภาพ ต่อเนื่องด้วยปี 2019 ที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองขึ้นในประเทศเจ้าภาพการประชุม นั่นคือ ประเทศชิลี ทำให้ในปี 2019 ไม่มีการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค

APEC 2022

  1. แมวนวล” ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์ภาพ “น้องนวล” แมวพรีเซนเตอร์โปรโมตงานเอเปค 2022 ผ่านอินสตาแกรมเพื่อเชิญชักชวนติดตามการประชุม APEC 2022 ที่ปีนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยระบุข้อความว่า

นวลขอเชิญพี่ ๆ ทุกคนมาร่วม “เปิดกว้าง สร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันสู่สมดุล”

การเป็นเจ้าภาพ APECในปีนี้จะเป็นโอกาสสำคัญที่ไทยจะมีบทบาทที่สร้างสรรค์ ในการร่วมระบุนโยบายและก็ทิศทางความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคระหว่างประเทศ แลกเปลี่ยนความรู้และก็ประสบการณ์กับประเทศในเขตเศรษฐกิจเอเปค เพื่อนำมาเปลี่ยนแปลงและก็ยกระดับมาตรฐานทางเศรษฐกิจของไทยให้ทันสมัย เป็นสากล รวมถึงเสริมสร้างศักยภาพ ในมิติต่างๆให้แก่ภาครัฐและก็เอกชน

ยิ่งไปกว่านี้ ยังเป็นการแสดงความพร้อมของไทยในการ ต้อนรับนักลงทุนและก็นักท่องเที่ยวในยุคหลังการระบาดของโควิด-19

การประชุมเอเปค มีประโยชน์มากมายขนาดนี้ นวลก็เลยอยากเชิญชวน พี่ๆทุกคนมาเป็นเจ้าบ้านที่ดีและก็เกื้อหนุนให้การประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิคในปีนี้สำเร็จลุล่วง ไปด้วยดีกันนะคะ

  1. ในช่วงของการประชุมเอเปค ซึ่งผู้นำและก็ตัวแทนผู้นำแต่ละประเทศจะพบปะกันนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้ประชาชนหลีกหลีกเลี่ยงเส้นทางบริเวณโดยรอบศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 16-19 พฤศจิกายน 2565 โดยเส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบด้านการจราจร
  • ถนนรัชดาภิเษก แยกอโศกมนตรี- แยกพระราม 4 และถนนดวงพิทักษ์ตลอดสาย ขอให้งดใช้ตลอด 24 ชม.
  • ถนนเพลินจิต (ขาเข้า), ถนนวิทยุ (ช่องทางหลัก) ตั้งแต่ แยกเพลินจิต – แยกสารสิน, ถนนราชดำริ (ฝั่งขาเข้า) ตั้งแต่ แยกราชประสงค์ – แยกราชดำริ, ซอยต้นสน ตลอดสาย และซอยร่วมฤดี ตลอดสาย ขอให้งดใช้ช่วงเวลา ตั้งแต่ 18.00 น.-06.00 น. ของวันถัดไป
  • จัดเดินรถทางเดียว (one way) ตั้งแต่เวลา 18.00-06.00 น. ถนนราชดำริ (ขาออก) ตั้งแต่ แยกราชดำริ – แยกราชประสงค์, ถนนวิทยุ (ขาออกช่องคู่ขนาน) ตั้งแต่ แยกสารสิน – แยกเพลินจิต และถนนเพลินจิต (ฝั่งขวา) ตั้งแต่แยกใต้ด่วนเพลินจิต – แยกราชประสงค์
  1. MRT หยุดให้บริการ สถานีศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ งดจอดรับส่งผู้โดยสารในสถานีนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 เวลา 00.01 น. – จนถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 เวลา 18.00 น.
  2. สวนป่าเบญจกิติ ปิดให้บริการ ตั้งแต่ 14-19 พฤศจิกายน 2565 เนื่องจากสวนดังกล่าวจะเป็นที่ตั้งของฝ่ายความมั่นคง และก็เป็นสถานที่ใกล้กับจุดที่มีการประชุมกัน ก็เลยต้องให้เกิดความปลอดภัยอย่างสูงสุด
  3. ไทยได้ประโยน์อะไรต่อการประชุมเอเปค ในคราวนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.ปิติ ศรีแสงนาม คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ส่งผลดีทันทีต่อเศรษฐกิจในประเทศไทยเพราะว่านอกเหนือจากผลการประชุมที่จะเป็นประโยชน์ในระยะยาวในการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจในกรอบที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว

ผลได้จากการประชุมเอเปคที่เกิดขึ้นทันที โดยไม่ต้องรอการประชุมสุดยอดผู้นำ นั่นคือ ตลอดทั้งปี มีคณะของ 21 เขตเศรษฐกิจเอเปคในทุกระดับ ที่มาประชุมกันรวมแล้วกว่า 14 คลัสเตอร์ ตั้งแต่ เจ้าหน้าที่ จนถึงรัฐมนตรี และก็ผู้นำของประเทศ และกองทัพสื่อ ได้เดินทางเข้ามาในประเทศ เข้าทางประชุม เข้ามาใช้บริการต่างๆทั้ง อาหาร โรงแรม การท่องเที่ยว อุตสาหกรรมของที่ระลึก ขนส่ง ภาคบริการ และก็ภาคการผลิตของไทยก็ได้รับผลประโยชน์ไปแล้ว

ทั้งหมดคือกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น และก็ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจในประเทศไทยเกิดการขยายตัว และก็ยังถือเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในเวทีโลกได้เป็นอย่างดี